วิธีระบุและหลีกเลี่ยงการสแกนคิวอาร์โค้ดปลอม
การเพิ่มขึ้นของรหัส QR ปลอมทําให้ผู้ใช้จําเป็นต้องเรียนรู้วิธีค้นหารหัสหลอกลวงเหล่านี้และหลีกเลี่ยงความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น ในบทความนี้เราจะพูดถึงรหัส QR ปลอมคืออะไรวิธีระบุและแบ่งปันเคล็ดลับในการรักษาความปลอดภัยเมื่อโต้ตอบกับรหัส QR
QR Code ปลอมคืออะไร
คิวอาร์โค้ดปลอม คือ คิวอาร์โค้ดปลอม หรือ คิวอาร์โค้ดปลอม ที่สร้างขึ้นโดยมุ่งร้าย เช่นเดียวกับ QR Code ที่ถูกกฎหมาย QR Code ปลอมจะนำคุณไปยังเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันเมื่อสแกน แต่มักจะนำไปสู่ปลายทางที่เป็นอันตรายหรือฉ้อโกง
ปลายทางเหล่านี้อาจรวมถึงเว็บไซต์ฟิชชิ่งแอปพลิเคชันที่เป็นอันตรายหรือพอร์ทัลการชำระเงินที่ผิดพลาดและข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลทางการเงินของคุณอาจถูกขโมย
แม้ว่าตัวรหัส QR จะดูไม่เป็นอันตราย แต่ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับภาพ QR Code ปลอมอาจสูงมาก:
● การโจมตีแบบฟิชชิ่ง: การเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์หลอกลวงที่ออกแบบมาเพื่อรวบรวมข้อมูลที่ละเอียดอ่อน
● ดาวน์โหลดมัลแวร์: ติดตั้งซอฟต์แวร์ที่เป็นอันตรายบนอุปกรณ์ของคุณโดยที่คุณไม่รู้ตัว
● การหลอกลวงทางการเงิน: การหลอกลวงผู้ใช้ให้ชำระเงินหรือให้ข้อมูลทางการเงินบนแพลตฟอร์มที่หลอกลวง
เนื่องจากวิธีการใช้งาน QR Code แบบไร้รอยต่อ ผู้ใช้มักไม่คิดสองครั้งเมื่อสแกน ซึ่งเป็นเหตุผลที่รหัส QR ปลอมกลายเป็นกลยุทธ์ยอดนิยมสําหรับอาชญากรไซเบอร์
ประเภท QR Code ปลอม
1. การปลอมแปลงรหัส QR ในสถานที่สาธารณะ: บางครั้งมิจฉาชีพปลอมแปลงรหัส QR ที่ถูกต้องตามกฎหมายโดยการเขียนทับรหัส QR ปลอมด้วย PNG ซึ่งมักจะเกิดขึ้นตามสถานที่ต่างๆ เช่น ร้านอาหาร เครื่องจับเวลาจอดรถ หรือโปสเตอร์สาธารณะ ซึ่งประชาชนอาจสแกนโดยไม่ได้ตรวจสอบที่มาที่ไปอย่างรอบคอบ
2. การฉ้อโกงทางดิจิทัลผ่านอีเมลและ SMS: มิจฉาชีพอาจส่งภาพ QR Code ปลอมผ่านอีเมลหรือ SMS โดยอ้างว่ามีส่วนลดหรือรางวัล การสแกนโค้ดอาจทำให้เกิดเว็บไซต์ฟิชชิ่งที่ดูเหมือนถูกกฎหมาย แต่มีจุดมุ่งหมายเพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลทางการเงิน
3. การฉ้อโกงการชำระเงิน: พอร์ทัลการชำระเงินปลอมมีการเชื่อมโยงกับการฉ้อโกงรหัส QR มากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสถานที่ที่การชำระเงินแบบไร้สัมผัสเป็นที่นิยม มิจฉาชีพนำคิวอาร์โค้ดปลอมมาแทนที่คิวอาร์โค้ดการชำระเงินที่ถูกต้องตามกฎหมายของธุรกิจ ทำให้ลูกค้าโอนเงินเข้าบัญชีของมิจฉาชีพโดยไม่รู้ตัว
วิธีการระบุรหัส QR ปลอม?
การระบุ QR Code ปลอมอาจเป็นเรื่องยากเพราะมองเห็นได้เหมือนกับ QR Code จริง อย่างไรก็ตามสัญญาณที่ชัดเจนบางอย่างสามารถช่วยให้คุณหลีกเลี่ยงการถูกหลอก:
1. มองหาร่องรอยการดัดแปลงทางกายภาพ
หากสแกน QR Code ตามสถานที่สาธารณะ ให้ตรวจสอบให้ดีว่ารหัสดังกล่าวมีลักษณะเป็นสติกเกอร์ติดอยู่กับ QR Code อีกตัวหนึ่งหรือไม่ มิจฉาชีพมักจะนำ QR Code ปลอมมาใส่ใน QR Code ที่ถูกต้องตามกฎหมายเพื่อเปลี่ยนเส้นทางผู้ใช้ไปยังเว็บไซต์หลอกลวง
ตัวอย่างเช่น QR Code ที่ถูกดัดแปลงบนตัวจับเวลาที่จอดรถได้กลายเป็นวิธีการทั่วไปในการหลอกลวงผู้ใช้ให้เข้าสู่พอร์ทัลการชําระเงินปลอม
2. ตรวจสอบ URL ก่อนดำเนินการ
หลังจากสแกน QR Code แล้วให้ติดตาม URL ของเว็บไซต์ที่ชี้ไป รหัส QR ที่ถูกต้องตามกฎหมายมักจะชี้ไปที่ชื่อโดเมนที่สะท้อนถึงแบรนด์หรือบริการ
รหัส QR ปลอมอาจกำหนดเป้าหมายคุณไปยัง URL ของชื่อโดเมนที่มีเลขสุ่มตัวอักษรคี่หรือไม่ตรงกับแหล่งที่มาที่ต้องการ (เช่น paysecure123.xyz; ไม่ใช่ paypal.com โปรดตรวจสอบอย่างละเอียดก่อนป้อนข้อมูลส่วนบุคคลหรือข้อมูลทางการเงิน
3 ค้นหา HTTPS และตัวชี้วัดความปลอดภัย
เว็บไซต์ที่ถูกกฎหมายมักใช้การเชื่อมต่อ HTTP ที่ปลอดภัย ("https://" ใน URL และไอคอนกุญแจจะแสดง) หากเว็บไซต์ที่เชื่อมโยงกับ QR Code ขาดโปรโตคอลการรักษาความปลอดภัยนี้ อาจเป็น QR Code ปลอม ซึ่งทำให้คุณเข้าถึงเว็บไซต์ที่ไม่ปลอดภัย
4. ระวังคิวอาร์โค้ดที่ไม่พึงประสงค์
โปรดใช้ความระมัดระวังหากคุณได้รับ QR Code ผ่านอีเมล SMS หรือโพสต์โซเชียลมีเดียที่ไม่คาดคิด มิจฉาชีพมักใช้ข้อความที่ไม่พึงประสงค์มาแจกคิวอาร์โค้ดปลอม ทำให้ดูเหมือนมาจากองค์กรที่น่าเชื่อถือ หลีกเลี่ยงการสแกนคิวอาร์โค้ดจากแหล่งที่ไม่คุ้นเคยหรือไม่ได้ขอ
5. สแกนรหัส QR ด้วยซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัย
แอปรักษาความปลอดภัยบนมือถือบางตัวมีเครื่องสแกนรหัส QR ในตัวซึ่งจะช่วยตรวจจับลิงก์ที่เป็นอันตรายก่อนที่คุณจะเปิด แอปพลิเคชันเหล่านี้จะตรวจสอบ URL ให้คุณและแจ้งเตือนเมื่อเว็บไซต์ถือว่าไม่ปลอดภัย
ชั้นความปลอดภัยเพิ่มเติมนี้สามารถช่วยป้องกันการหลอกลวงที่เกี่ยวข้องกับภาพ PNG รหัส QR ปลอมหรือการพยายามฟิชชิ่ง
ตัวอย่างการหลอกลวงคิวอาร์โค้ดปลอม
ตัวอย่างที่ 1: การฉ้อโกงร้านอาหาร
ในช่วงการแพร่ระบาด ร้านอาหารหลายแห่งได้เปลี่ยนมาใช้เมนูคิวอาร์โค้ดเพื่อลดการสัมผัสทางกาย มิจฉาชีพฉวยโอกาสเอาคิวอาร์โค้ดปลอมมาวางบนโต๊ะ
ลูกค้าไม่รู้เรื่องมิจฉาชีพจะสแกนรหัส แต่กลับนำเว็บไซต์มิจฉาชีพที่เลียนแบบระบบการชำระเงินของร้านอาหาร ผู้ใช้ที่ป้อนข้อมูลการชําระเงินพบว่าบัญชีธนาคารของพวกเขาว่างเปล่า
ตัวอย่างที่ 2: การหลอกลวงจับเวลาที่จอดรถ
การหลอกลวงที่ได้รับความนิยมคือการใส่รหัสคิวอาร์โค้ดปลอมลงในรหัสจับเวลาที่จอดรถอย่างถูกกฎหมาย เมื่อผู้ใช้สแกนรหัสเพื่อชำระค่าจอดรถ ก็จะถูกชี้นำให้ไปยังหน้าจ่ายเงินที่หลอกลวง ซึ่งนอกจากจะทำให้เกิดการสูญเสียเงินแล้ว ยังสามารถนำไปสู่การฉ้อโกงทางการเงินต่อไปได้หากข้อมูลบัตรเครดิตของผู้ใช้ถูกเก็บไว้
แนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดเพื่อหลีกเลี่ยงการปลอมแปลงรหัส QR
1. สแกน QR Code ที่เชื่อถือได้เท่านั้น
สแกนเฉพาะคิวอาร์โค้ดจากแหล่งที่เชื่อถือได้เท่าที่ทำได้ หากไม่แน่ใจที่มาที่ไปให้ตรวจสอบก่อนสแกน เช่นที่ร้านอาหาร ให้ถามเจ้าหน้าที่ว่าคิวอาร์โค้ดที่เจ้าหน้าที่ให้มานั้นถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่
2. ป้อนที่อยู่เว็บไซต์ด้วยตนเองถ้าเป็นไปได้
หากรหัส QR นำคุณไปยังเว็บไซต์ให้พิจารณาพิมพ์ที่อยู่เว็บไซต์ด้วยตนเองในเบราว์เซอร์แทนการสแกนรหัส สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งเมื่อต้องรับมือกับธุรกรรมทางการเงินหรือธุรกรรมที่ละเอียดอ่อนเนื่องจากช่วยลดความเสี่ยงของการถูกเปลี่ยนเส้นทางไปยังเว็บไซต์หลอกลวง
3. สร้างรหัส QR อย่างปลอดภัย
หากคุณต้องการสร้างรหัส QR สำหรับธุรกิจหรือการใช้งานส่วนตัวให้ใช้เครื่องมือสร้างรหัส QR ออนไลน์ที่เชื่อถือได้เสมอ ซึ่งจะทำให้มั่นใจได้ว่า QR Code ของคุณจะปลอดภัยและไม่ถูกยักย้ายถ่ายเทโดยอาชญากรไซเบอร์
และสุดท้ายภัยคุกคามจากการเจอคิวอาร์โค้ดปลอมเป็นเรื่องจริงเมื่อมีการใช้คิวอาร์โค้ดมากขึ้น สิ่งสำคัญในการรักษาความปลอดภัยคือการตื่นตัว
ควรตรวจสอบที่มาของ QR Code อย่างละเอียด ยืนยัน URL ที่ชี้ไป และระมัดระวังการสแกนโค้ดในที่สาธารณะ โดยทำตามเคล็ดลับความปลอดภัยเหล่านี้, คุณสามารถลดความเสี่ยงของการตกเป็นเหยื่อของการหลอกลวงรหัส QR.
สำหรับผู้ที่ต้องการสร้างรหัส QR สำหรับธุรกิจหรือการใช้งานส่วนตัวเครื่องสร้างรหัส QR ที่ปลอดภัยช่วยให้มั่นใจได้ การสร้างรหัสจากแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้ช่วยให้มั่นใจได้ถึงความปลอดภัยและความสมบูรณ์ของรหัส QR ของคุณเพื่อปกป้องคุณและลูกค้าของคุณจากการโจมตีที่เป็นอันตราย